ในช่วงเวลาของการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเกิด แก่ เจ็บ และตายคือสิ่งพื้นฐานของชีวิตมนุษย์นั่นเอง อย่างไรก็ดี โรคบางโรคไม่อาจรักษาให้หายได้ ทำได้แค่เพียง การดูแลผู้ป่วยประคับประคอง ไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตดีนั่นเอง สำหรับใครที่อยากศึกษาเรื่องการดูแลผู้ป่วยในแบบประคับประคอง การทำการศึกษานั้นมีดังต่อไปนี้
1.โรคที่เป็น
หากอยากดูแลผู้ป่วยให้ได้แบบประคับประคองนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะทำการดูแลในรูปแบบนี้เมื่อใดก็ได้ หากแต่ว่าจะต้องดูแลให้เหมาะสมกว่าเดิม และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ต้องรู้ด้วยว่าป่วยด้วยโรคอะไรกันแน่ ไม่ใช่คนดูแลอยากจะทำการดูแลแบบนี้แล้วก็ตัดสินใจดูแลด้วยตนเอง เพราะการดูแลของโรคแต่ละโรคนั้นแตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องให้แพทย์ทำการวินิจฉัยโดยเฉพาะ จึงจะรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
2.การเตรียมสถานที่
การเตรียมบ้านให้เหมาะสมกับการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากว่าหากเราไม่เตรียมสถานที่เอาไว้เลย แทนที่จะทำให้การดูแลแบบประคับประคองเกิดประโยชน์ก็อาจจะเป็นโทษมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย อย่างไรก็ดี หากเราอยากให้การเตรียมสถานที่นั้นถูกต้องก็แนะนำเลยว่าให้สอบถามกับทางทีมงานสหวิชาชีพจะดีที่สุด เพื่อลดปัญหาที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง
3.การเตรียมความพร้อมตนเอง
การดูแลคนป่วยคือสิ่งที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางจิตใจมากที่สุด อาจจะกล่าวได้ว่าการเตรียมความพร้อมจิตใจของเราเองคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะว่าจะทำให้เราสามารถยืนหยัดได้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ ก็ยังนับว่าสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเรื่องการอาบน้ำผู้ป่วย การสระผมผู้ป่วย และอื่นๆ อีกมากมาย หากไม่มีพื้นฐานความรู้ในด้านนี้เลยก็อาจจะทำได้อย่างไม่เต็มที่ และทำผิดได้
4.ปรึกษาทีมแพทย์พยาบาล
ก่อนจะทำการดูแลประคับประคอง แนะนำเลยว่าให้ปรึกษาทีมแพทย์ ทีมพยาบาลเสียก่อน เพราะจะทำให้คุณมีความรู้พื้นฐานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังช่วยให้มีความมั่นใจกว่าเดิมในด้านของการดูแลและรักษาได้เป็นอย่างดี อาจจะกล่าวได้ว่าหากอยากจะรักษาแบบนี้ ควรมีความรู้ครบในทุกด้าน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การรักษาไม่เต็มที่ได้
และนี่ก็คือสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนเกี่ยวกับการรักษาประคับประคอง ก่อนจะทำการดูแลรูปแบบนี้ ควรศึกษาสิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง จะดีกว่าหรือไม่หากเรามีการพยายามศึกษาในด้านนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อการดูแลอย่างเปี่ยมคุณภาพ ทำให้คนป่วยมีความสุขในบั้นปลาย และจุดสุดท้ายของชีวิตนั่นเอง